
เรื่องเล็กๆ ภายในบ้านอย่าได้มองข้ามเป็นอันขาด เพราะเผลอเพียงแค่เสี้ยววินาที ลูกรักของคุณอาจได้รับอันตรายได้นะคะ ฉะนั้นมาดูกันดีกว่าว่าภายในบ้านที่ว่าปลอดภัยแล้วนั้น ยังมี จุดอันตรายอะไรซุกซ่อนอยู่บ้าง รู้แล้วจะได้ระมัดระวังใส่ใจกันให้มากขึ้น
เตียงเด็ก
ถือเป็นจุดอันตรายในบ้านสำหรับเด็กเล็กที่พ่อแม่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากซี่เปลที่มีความห่างไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดอันตรายจากการดิ้นของเด็กจนศีรษะเข้าไปติดค้างได้ ดังนั้นจึงควรเลือกเปล เตียงนอนเด็กที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยตามนี้
>>ราวกันตกมีซี่ราวห่างกันไม่เกิน 6 เซนติเมตร
>>มุมเสาทั้ง 4 มุมต้องเรียบ มีส่วนนูนได้ไม่เกิน 1.5 มิลลิเมตร
>>ราวกันตกจะต้องมีตัวยึดที่ดี เด็กไม่สามารถเหนี่ยวรั้งให้ตกลงมาได้
>>บนเบาะที่นอนต้องไม่มีเครื่องนอนมากเกินไป เพื่อระวังเด็กเอาหน้าซุก ขาดอากาศหายใจทำเด็กตายได้
>>เบาะที่นอนต้องพอดีกับเตียง และไม่มีช่องว่างระหว่างเบาะกับราวกันตกเกินกว่าด้านละ 3 เซนติเมตร
>>จากขอบบนของเบาะที่นอนถึงราวกันตกด้านบนต้องมีความสูงไม่ต่ำกว่า 65 เซนติเมตร หรือ 3 ใน 4 ของความสูงเด็ก
เครื่องใช้ไฟฟ้า
ถือเป็นจุดอันตรายในบ้านสำหรับเด็กมากเพราะเด็กในวัยกำลังหัดเดินชอบที่จะเอื้อมคว้าสายไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เตารีด กาต้มน้ำร้อน เป็นต้น ฉะนั้นไม่ควรเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้เด็ดขาดเพราะเด็กสามารถได้รับอันตรายจากความร้อนของเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ได้ ควรเก็บสายไฟของกาน้ำร้อน เก็บเตารีดให้เรียบร้อยเมื่อใช้เสร็จแล้ว
หน้าต่าง
มักกลายเป็นอุบัติเหตุในบ้านได้อยู่บ่อยครั้งเพราะเด็ก ๆ ชอบที่จะปีนป่ายเฟอร์นิเจอร์ที่วางชิดหน้าต่าง จนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุพลัดตกหน้าต่างได้รับอันตรายถึงชีวิตได้ หากที่บ้านมีเด็กเล็กควรปิดหน้าต่างหรือมุ้งลวดให้สนิท ไม่วางเฟอร์นิเจอร์ในตำแหน่งที่ชิดกับหน้าต่างเด็ดขาด
ขั้นบันได
เป็นจุดอันตรายในบ้านกับเด็กอย่างมากเพราะเด็กวัย 6-12 เดือน จะเริ่มเคลื่อนที่ได้ดี และเร็วขึ้นจากการกลิ้ง คืบคลาน เกาะเดินและเดินได้เอง เมื่อเด็กเดินหรือวิ่งได้แล้ว ก็ยิ่งมีความเสี่ยงต่อการตกบันได หกล้ม ชนกระแทก ดังนั้นจึงควรตรวจสอบราวบันไดให้มีประตูปิดล็อก เพื่อเด็กจะได้ไม่เปิดเล่นจนพลัดตกบันไดได้รับอุบัติเหตุขึ้นได้
สัตว์เลี้ยง
เด็กวัย 6 เดือนขึ้นไปมักสนใจสัตว์เลี้ยงต่างๆ ในบ้าน เด็กอาจถูกเลีย กัด ข่วน จากการจับ ดึง หรือแย่สัตว์ได้ เพื่อป้องกันอันตรายในบ้านจากสัตว์เลี้ยง ไม่ควรปล่อยให้เด็กเล็กอยู่ตามลำพังกับสัตว์เลี้ยง คุณพ่อ คุณแม่และผู้ใหญ่รอบข้างตัวเด็กควรต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้เด็กเห็นว่าไม่ควรรังแกหรือแกล้งสัตว์ให้โมโห ที่สำคัญควรฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าให้กับสัตว์เลี้ยงในบ้านด้วย
ประตูห้อง
จัดว่าเป็นจุดอันตรายในบ้านสำหรับเด็กวัยหัดคลาน หัดเดิน เด็กอาจถูกประตูหนีบมือ เท้าและใบหน้าได้ จึงควรติดอุปกรณ์ป้องกันประตูหนีบไว้ที่ประตูห้องด้วย
สระน้ำ
อุบัติเหตุเด็กจากการตกน้ำ จมน้ำมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง สำหรับบ้านที่มีสระน้ำควรปิดประตูบ้านให้สนิทเรียบร้อย เพื่อป้องกันเด็กคลานหรือเดินไปที่บริเวณสระน้ำเพราะเด็กอาจได้รับอันตรายในบ้านจากการพลัดตกลงไปในสระน้ำ หากพ่อแม่ไม่เห็นและช่วยไม่ทัน ก็ทำเด็กเสียชีวิตได้ค่ะ
ชั้นวางทีวี
เด็กวัย 1-2 ปี มีความสามารถในการปีนป่าย ก็อาจได้รับอุบัติเหตุจากทีวีจอยักษ์ล้มลงมาทับได้เหมือนกัน ดังนั้นเพื่อป้องกันอันตรายในบ้าน ควรยึดทีวีไว้กับกำแพงให้เรียบร้อย ส่วนเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านต้องไม่มีมุมคม หากมีควรใส่อุปกรณ์กันกระแทกที่มุมโต๊ะด้วย
ห้องครัว
ถือเป็นจุดอันตรายในบ้านอย่างมาก สำหรับห้องครัวควรมีประตูกั้นเพื่อไม่ให้เด็กเล็กเข้าไปในบริเวณห้องครัวตามลำพัง อย่าวางของร้อนบนพื้นและของมีคมในที่ที่เด็กอาจเอื้อมมือไปคว้าหยิบมาเล่นได้ เพราะเด็กอาจได้รับอันตรายจากการถูกมีดบาด มีดแทงจนถึงชีวิตได้เช่นกัน
สนามเด็กเล่น
อุบัติเหตุเด็กจากการเล่นที่สนามเด็กเล่นเป็นเรื่องที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม สำหรับบ้านที่มีสนามเด็กเล่นไว้ให้ลูกควรระมัดระวังในเรื่องพื้นผิวรองรับการตก หากเป็นพื้นทรายที่ขุดลึกลงไปประมาณ 9 นิ้ว จะปลอดภัยจากการตกจากเครื่องเล่นต่างๆ เครื่องเล่นปีนป่ายหรือกระดานลื่นไม่ควรสูงเกิน 120 เซนติเมตร เพื่อลดการบาดเจ็บที่ศีรษะ
อ่างอาบน้ำ
ถือเป็นอีกหนึ่งจุดอันตรายในบ้านสำหรับเด็ก อ่างอาบน้ำเด็กควรติดยางกันลื่นไว้ด้วย เพราะเด็กต้องก้าวขึ้นก้าวลงอ่างอาบน้ำทุกวัน โอกาสที่จะลื่นล้มหัวกระแทกอ่างจึงมี ที่สำคัญเด็กที่อายุต่ำกว่า 3 ขวบ ไม่ควรให้อยู่ในอ่างน้ำคนเดียวเพราะน้ำเพียงแค่ 5 เซนติเมตร เด็กก็อาจได้รับอันตรายจากการจมน้ำเสียชีวิตได้
ห้องน้ำ
เป็นจุดอันตรายในบ้านเพราะเสี่ยงต่อการลื่นล้มศีรษะกระแทกพื้น การป้องกันคือให้วางผ้าหรือพรมเช็ดเท้าแบบหนาๆ หยาบๆ วางไว้ 2 จุด คือ หน้าห้องน้ำ และหน้าอ่างน้ำ เพื่อช่วยซับน้ำไม่ให้พื้นเปียก ซึ่งเสี่ยงต่อการเหยียบแล้วลื่นไถลศีรษะฟาดพื้นเสียชีวิตได้
โถชักโครก
เป็นจุดอันตรายในบ้านที่ไม่ควรมองข้าม ห้องน้ำที่ปิดประตูไม่สนิท เด็กในวัยหัดเดินมักเดินเข้าไป และไปเล่นน้ำในโถชักโครก บางครั้งพลาดทำให้ลื่นคอทิ่มลงไปในโถชักโครก เด็กวัยนี้จะยังไม่มีทักษะในการช่วยเหลือตนเองได้ดีพอ อาจทำให้ยกศีรษะขึ้นมาไม่ได้ และอาจจมน้ำในโถชักโครกเสียชีวิตได้
ตู้เสื้อผ้า
เป็นจุดอันตรายในบ้านด้วยเหมือนกัน นั่นเพราะเด็กเล็กๆ ชอบที่จะปีนเข้าไปเล่นในตู้เสื้อผ้า เด็กอาจเหยียบขอบพื้นของตู้เสื้อผ้าทำให้ตู้เสื้อผ้าเอียง และอาจล้มลงมาทับเด็กก็เป็นไปได้ อุบัติเหตุเด็กอาจรุนแรงมากจนทำให้เกิดการฟกช้ำตามร่างกาย หรือตู้ทับส่วนแขนขาของเด็กทำให้มีแผลฉีกขาด หรือกระดูกหักได้
ยาฉีดกันยุง
สิ่งของเหล่านี้เป็นอันตรายในบ้านอย่างมากสำหรับเด็กเพราะเด็กเล็กๆ ชอบที่จะอยากรู้ อยากเห็น อยากลอง เมื่อเห็นอะไรวางไว้บนพื้น ก็จะหยิบมาเข้าปาก ซึ่งอาจพลั้งมือไปกดโดนหัวสเปรย์ สารพิษอาจเข้าตา เข้าปาก ทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้นควรเก็บขวดกระป๋องวัตถุมีพิษไว้ในตู้ให้มิดชิด เพื่อไม่ให้เด็กนำมาเล่นโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้
ประตูรั้วบ้าน
เป็นจุดอันตรายในบ้านอีกที่หนึ่งด้วยเหมือนกัน คุณพ่อคุณแม่ควรตรวจสอบความมั่นคงของประตูรั้วบ้านบ่อย ๆ และไม่ปล่อยให้เด็กๆ ไปเล่นประตู ไม่ว่าจะเป็นการปีนป่ายหรือโยกไปมา เพราะประตูอาจหลุดจากรางมาล้มทับเด็กจนได้รับอันตรายถึงชีวิตได้
เครดิต : KHANPAK และ MUMHELPER
ที่มา : ขอขอบคุณ http://www.rakluke.com/