“จิ๊กซอว์” ของเล่นเสริมพัฒนาการด้านสมาธิ

“สมาธิ”  คือ จุดเริ่มต้นและรากฐานที่สำคัญของการเรียนรู้  มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับสมองอันเป็นศูนย์รวมของความคิด  การวางแผน  การแก้ปัญหา  จินตนาการ ตลอดจนการบันทึกจดจำเรื่องราวของสิ่งต่าง ๆ รอบตัว

เด็กที่ไม่มีสมาธิเมื่อทำสิ่งใดมักประสบความล้มเหลวเพราะขาดความเชื่อมั่น  ขาดความรอบคอบ ขาดความอดทน   ทำให้เกิดปัญหาไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำกิจกรรม การมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับผู้อื่น รวมไปถึงการทำงานและการใช้ชีวิตในอนาคต

คุณพ่อคุณแม่จึงควรหากิจกรรมที่สามารถฝึกฝนสมาธิให้กับลูกน้อยด้วยการต่อจิ๊กซอว์ เพราะเมื่อเด็กมีความสนใจในสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นระยะเวลานาน จะสามารถกระตุ้นการทำงานของคลื่นสมอง ก่อให้เกิดการเรียนรู้  การจดจำ และการเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

ประโยชน์ของการต่อจิ๊กซอว์

1. ฝึกการเชื่อมโยงระหว่างความคิดกับการมองเห็น การสังเกต  การผสมผสานและแยกแยะลวดลาย สีสัน รูปทรง ความแตกต่างของภาพในจุดต่าง ๆ และการมองภาพในองค์รวม
 
2. ฝึกการประสานงานร่วมกันระหว่างดวงตา สมอง และมือ ช่วยให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างสอดคล้องเหมาะสม เมื่อเด็กต้องตัดสินใจเลือกจิ๊กซอว์ชิ้นที่ถูกต้อง

3. ฝึกการควบคุมจิตใจให้มีสติและสมาธิ เพราะการจดจ่ออยู่กับจิ๊กซอว์จะทำให้จิตใจไม่วอกแวก ทำให้สามารถจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ดี

4. ช่วยพัฒนาความจำ การเรียนรู้เกี่ยวกับสีสัน รูปร่าง รูปทรงของวัตถุ ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการเรียน
 
5. ช่วยพัฒนาความคิดเชิงตรรกะ ความละเอียดรอบคอบ การเรียนรู้ การลองผิดลองถูก ทำให้สามารถคิดอย่างเป็นระบบเป็นเหตุเป็นผล

6. ช่วยพัฒนาความพยายาม ความอดทน รู้จักการรอคอย มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างผลงานให้สำเร็จ
 
7. ช่วยพัฒนาทักษะทางด้านจินตนาการและการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับสมาชิกในครอบครัวผ่านกิจกรรมที่สนุกสนานเพลิดเพลิน

วิธีการเลือกจิ๊กซอว์สำหรับเด็ก

1. สำหรับเด็กที่พึ่งหัดเล่น ควรเลือกจิ๊กซอว์ที่มีขนาดใหญ่ จำนวนน้อยชิ้น จับถนัดมือและไม่เลื่อนหลุดจากกันได้ง่าย ที่สำคัญควรเป็นรูปที่ลูกชอบ จึงจะสามารถช่วยดึงดูดความสนใจได้

2. ควรเลือกจิ๊กซอว์ที่มีสีสันและลวดลายที่ไม่เยอะมาก สามารถสังเกตเห็นได้ง่าย อาจเป็นแบบที่มีตัวเลขกำกับ เมื่อเด็กคุ้นเคยกับการต่อจิ๊กซอว์มากขึ้นแล้ว จึงค่อยเลือกภาพที่มีความละเอียดซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เช่น ภาพการ์ตูน  สัตว์  ผลไม้  คำศัพท์  รูปทรง  ยานพาหนะ  พยัญชนะ  เป็นต้น

3. ควรเลือกจิ๊กซอว์ที่มีความทนทาน  หากเป็นกระดาษก็ควรมีความหนาที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน
 
เทคนิคการเล่น

1. ควรเริ่มจากการวางจิ๊กซอว์เต็มภาพ  คุณพ่อคุณแม่เริ่มหยิบออกมาหนึ่งชิ้น  แล้วให้ลูกเป็นคนใส่ชิ้นส่วนกลับเข้าไป เมื่อเขาเริ่มเข้าใจวิธีการเล่น ก็ให้หยิบออกมามากขึ้น เพื่อเพิ่มความยาก

2. ระหว่างที่เล่น ควรชี้ชวนให้ลูกสังเกตเห็นความแตกต่างของแต่ละจุดที่เชื่อมต่อกัน เช่น สีสัน ลวดลาย  รูปร่าง  เป็นต้น

3. ควรให้คำแนะนำว่าลูกควรจะหาชิ้นไหน สีอะไร อยู่ตรงไหน แล้วให้เขาเป็นคนค้นหาและหยิบไปต่อเอง

4. ในช่วงแรกหากลูกไม่สนใจก็ไม่ควรบังคับ  แต่ควรเล่นให้ดูแล้วร้องขอให้ลูกช่วยหาชิ้นส่วน สักพักเขาก็จะให้ความสนใจและมาร่วมเล่นด้วยเอง

5. คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตพฤติกรรมของลูกว่ามีความพยายามในการเล่นมากน้อยเพียงใด เพราะเด็กบางคนหากทำไม่ได้ก็จะไม่ชอบและไม่ยอมเล่นอีกเลย พ่อแม่จึงควรให้ความช่วยเหลือ ให้กำลังใจ คอยสอนสิ่งใหม่ ๆ สอดแทรกให้กับลูกด้วย

เพราะแต่ละก้าวล้วนช่วยส่งเสริมพัฒนาการของสมองก่อให้เกิดเป็นความมหัศจรรย์ในแต่ละช่วงวัยของลูก คุณพ่อคุณแม่จึงควรใส่ใจเลือกสรรกิจกรรมการเล่นที่เป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของลูกเพื่อการเติบโตอย่างมีพัฒนาการต่อไป